วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2559

คุณค่าของป่า ที่ควรรักษาไว้ให้กับอนาคต


          ป่าชายเลน หรือ ป่าโกงกาง ขึ้นอยู่ในเขตน้ำลงต่ำสุด และน้ำขึ้นสูงสุด บริเวณชายฝั่งทะเล ปากแม่น้ำ หรืออ่าว ป่าชายเลนเป็นสังคมพืช ที่ประกอบด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด หลายตระกูล และเป็นพวกที่มีใบเขียวตลอดทั้งปี ซึ่งใบไม้พวกนี้มีลักษณะทางสรีรวิทยา และความต้องการสิ่งแวดล้อมที่คล้ายกัน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยพันธุ์ไม้ประเภทไม้โกงกางเป็นหลัก และมีไม้ตระกูลอื่นปนบ้างเล็กน้อย


          ป่าชายเลน นับวันจะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพราะว่านับวันยิ่งมีน้อยลง ลดลงทุกที ในประเทศไทยใช้ทรัพยากรป่าชายเลน ทั้งทางด้านป่าไม้ และด้านการทำประมง โดยเฉพาะเป็นแหล่งขยายพันธุ์พืช ขยายพันธุ์สัตว์น้ำ และสัตว์ป่า

          การต่อยอดจากป่าชายเลน ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมากมาย ก็คือ การนำไม้จากป่าชายเลน โดยเฉพาะไม้โกงกางมาทำถ่าน นอกจากนี้ยังนำไปใช้ทำเสาเข็ม สร้างบ้านได้อีกด้วย 


          สำหรับในด้านการประมง ป่าชายเลนถือว่าเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญต่อสัตว์น้ำนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู และปลา วงจรชีวิตของสัตว์น้ำเหล่านี้จะมีความสัมพันธ์กับป่าชายเลนตลอด ทั้งในด้านเป็นที่อยู่อาศัย เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ และสำคัญในด้านการเจริญเติบโต

          ป่าชายเลนสามารถผลิตอาหาร และแร่ธาตุหลายชนิด โดยได้จากการร่วงหล่น และสลายตัวของเศษไม้ เศษใบไม้ ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศป่าชายเลน จะเป็นเครื่องชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์น้ำกับป่าชายเลนนั้นมีมากมาย หากมีการทำลายป่าชายเลน ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเหล่านี้จะหมดไป และในที่สุด ทรัพยากรสัตว์น้ำก็จะลดปริมาณลง และหมดสิ้นไปในที่สุด

          ในปัจจุบัน ป่าชายเลนได้ถูกทำลายลง เพราะการขยายตัวของประชากรมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น  ดังนั้นป่าชายเลนจึงถูกทำลายด้วยกิจกรรมต่างๆของมนุษย์อยู่เป็นประจำ พื้นที่ป่าชายเลนบางที่ยังคงมีความสมบูรณ์อยู่ และมีบางที่ ที่มีชุมชนเข้าไปอยู่อาศัย และใช้ประโยชน์ต่างๆจากป่าชายเลน เช่น เลี้ยงสัตว์น้ำ ทำบ่อกุ้ง นากุ้ง และตัดไม้ทำลายป่าเพื่อนำไปขาย หรือบางคนก็นำที่ดินไปขายให้กับเอกชน จนไม่เหลือพื้นที่ไว้สำหรับปลูกป่าชายเลน


" หากในอนาคตไม่มีป่าชายเลน จะเป็นอย่างไร ? "

          หากวันหนึ่ง ป่าชายเลนถูกทำลายจนหมด จะส่งผลกระทบในหลายๆด้านเป็นอย่างมาก ทั้งด้านกายภาพและเคมีภาพ เช่น อุณหภูมิของน้ำจะเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ ปริมาณธาตุอาหารหายไป ความเค็มของทั้งน้ำ และดิน รวมทั้งการขึ้นลงของน้ำทะเล และการเกิดพายุ อีกด้านคือจะส่งผลกระทบทางด้านชีวภาพ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติ ผลกระทบต่อความสมดุลต่อระบบนิเวศ  การสืบพันธุ์ของสัตว์ การเจริญเติบ และการทำลายที่อยู่ของสัตว์นานาชนิด การเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศป่าชายเลน รวมทั้งระบบนิเวศบริเวณชายฝั่งและใกล้เคียง

          ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องช่วยกันอนุรักษ์ป่าชายเลนเอาไว้ การอนุรักษ์ป่าชายเลนสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การส่งเสริมความร่วมมือของประชาชนในท้องถิ่น ในด้านการอนุรักษ์และพัฒนาป่าชายเลน ด้วยวิธีการให้ความรู้ ความ เข้าใจ ที่จะก่อให้เกิดจิตสำนึกและเห็นความจำเป็นในการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรป่าชายเลน , ส่งเสริม และสนับสนุน ให้มีการปลูก และฟื้นฟูป่าชายเลน , ขยายพันธุ์ไม้ป่าชายเลนให้มีความหลากหลาย และอื่นๆ


          แต่เราในฐานะประชากรธรรมดาๆคนหนึ่ง ก็คงทำได้เพียงร่วมรณรงค์การปลูกป่าชายเลน เข้าร่วมกิจกรรมการปลูกป่าชายเลน และปลูกฝังตัวเราเองให้มีจิตสำนึกที่ดีไม่ทำลายป่า เพียงเท่านี้ ถึงจะดูเล็กๆน้อยๆ แต่เราสามารถทำได้ และทุกๆคนก็สามารถทำได้ และถ้าหากทุกคนร่วมมือกัน ป่าชายเลนต้องกลับมาอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมอย่างแน่นอน





เอกสารอ้างอิง
ข้อมูลเพิ่มเติม และรูปภาพประกอบ สืบค้นจาก http://www.kroobannok.com/ , http://www.prthai.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น